ขอนแก่น ป.ป.ง.ยึด อายัดทรัพย์ "ผู้การสุทิพย์" พร้อมพวกร่วม 100 ล้านบาท   


21 สิงหาคม 61 16:28:06


พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4
 

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 21 ส.ค.2561 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.4 เปิดเผยว่า บช.ภ.4  ได้ประสานการทำงานร่วมกับ ป.ป.ง.ว่า หลังจากที่ พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช รอง ผบช.สำนักงานกำลังพล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อดีต ผบก.ภ.จว.เลย ซึ่งถูกข้าราชการตำรวจ ภ.จว.เลยเข้าร้องเรียนต่อ ผบ.ตร.และ ปบช.ภ.4 จากเหตุการฉ้อโกงเงิน ตามโครงการบริหารหนี้และรวมหนี้ของสหดรณ์ออมทรัพย์ตำรวจภูธรจังหวัดเลย จนมีการสืบสวนสอบสวน และพบมูลความผิดร่วมกับเครือข่ายแบบแชร์ลูกโซ่

 
"การโกงเงินตำรวจ 192 ราย จำนวน 229 ล้านบาท ของ พล.ต.ต.สุทิพย์ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวฐานเข้าข่ายฉ้อโกง อันเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 โดยในการสืบสวนสอบสวนพบว่า เงินที่โกงจากตำรวจไปนั้น ผู้ต้องหานำไปให้คนรู้จักสองผัวเมียที่จังหวัดหนองบัวลำภู นำไปลงทุนร่วมหุ้นกัน จึงมีการสืบสวนขยายผลถึงสองผัวเมียดังกล่าวจนทราบว่า นำเงินไปเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ทั้งยังมีการระดมเงินด้วยวิธีการชักชวนคนในจังหวัดหนองบัวลำภู และจังหวัดขอนแก่น นำเงินมาร่วมทุนเพื่อนำไปเล่นหุ้น โดยจะแบ่งประโยชน์ให้จำนวนมาก  จนทำให้มีผู้หลงเชื่อนำเงินแสนเงินล้านมาร่วมทุน ได้ส่วนแบ่งบ้างไม่ได้บ้าง สุดท้ายก็สูญเสียเงินไป ทั้งนี้คดีดังกล่าวนั้นหลายคนเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จังหวัดหนองบัวลำภูและจังหวัดขอนแก่น ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการกระทำลักษณะของแชร์ลูกโซ่ จึงประสานงานร่วมกับ ป.ป.ง. ในการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เชื่อมโยงกับ พล.ต.ต.สุทิพย์  เพราะพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่นั้น  เสมือนการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน"

  
รอง ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า  ตำรวจไม่ได้มีการช่วยเหลือผู้ต้องหา เมื่อตั้งรูปคดีแล้วก็ทำการสอบสวน รวบรวม พยานหลักฐานทางด้านเอกสาร และพยานบุคคล รวมทั้งประสานงานหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อขอข้อมูล คาดว่าภายในสิ้นเดือนนี้น่าจะสรุปสำนวน ส่งผู้ต้องหาไปฟ้องได้ สำหรับคดีที่จังหวัดเลยที่มีอดีตผู้บังคับบัญชาเป็นผู้ต้องหา และมีข้าราชการตำรวจ ที่ทำโครงการให้กับอดีตผู้การก็ถูกแจ้งข้อหาทั้งหมด รวมอดีตผู้การด้วยเป็น 3 คนการสอบสวน ยังมีการสืบสวนขยายผลไปยังที่ไปของเงินที่ออกจากสหกรณ์ เส้นทางการเงิน ปรากฏว่าไปเชื่อมโยงกับบุคคล 4 ถึง 5 คน ก็ได้มีการเรียกสอบและอายัดบัญชี ซึ่งบุคคลเหล่านี้มีทั้งในขอนแก่น หนองบัวลำภู ซึ่งก่อนจะส่งสำนวนให้อัยการ ได้ให้บุคคลเหล่านี้มาชี้แจง ทั้งการโอนเงินเข้าออกในบัญชี แล้วก็พบข้อมูลการเชื่อมโยงไปถึงตัวการใหญ่ที่ ที่มีผู้เสียหายมาแจ้งความฉ้อโกงประชาชน ในหลายพื้นที่ 

" เราได้ทำงานร่วมกันกับ  ป.ป.ง. ในการตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ตอนนี้รู้แล้วว่ามีใครเชื่อมโยงกับใคร และที่ตลาดหลักทรัพย์มีหุ้นหรือไม่มี ป.ป.ง.เช็คหมด อีกทั้งพนักงานสอบสวนในคดี ต้องสรุปข้อเท็จจริงทั้งหมดส่งให้ทาง ป.ป.ง โดยละเอียด  เพื่อที่ทาง ป.ป.ง.จะได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน โดยขณะนี้คดีฟอกเงิน  นั้นน 3 พื้นที่คือที่ จ.เลย, จ.หนองบัวลำภู และ จ.ขอนแก่น รวมผู้ต้องหาที่ร่วมกับ พล.ต.ต.สุทิพย์ รวมกว่า 10 คน  อย่างไรก็ตาม ป.ป.ง.และ บช.ภ.4 ได้ทำการยึดอายัดทรัพย์สินของ พล.ต.ต.สุทิพย์ รวมทั้งเครือข่ายที่ร่วมขบวนการแล้วเบื้องต้นรวมประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยเงินสด,รถยนต์,ที่ดิน รวมทั้งการอายัดเงินในบัญชีไว้เพื่อตรวจสอบในภาพรวมทั้งหมดด้วย"







เว็บโฮสติ้ง

เว็บโฮสติ้ง   Cloud Web Hosting   Streaming Server   VPS