เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 ส.ค. นางคำเพียร  ตามชัยภูมิ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่1 บ้านกุดแข้ ต.หนองไผ่ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น นายวีระพงศ์  พิมพ์แพน อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 129 หมู่ 9 ต.บ้านแท่น อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ พร้อมด้วยชาวบ้านประมาณ 50 คน ที่เป็นชาว จ.ขอนแก่น จ.กาฬสินธุ์ จ.มหาสารคาม จ.ชัยภูมิ จ.ร้อยเอ็ด และ จ.อุดรธานี เข้ามาร้องทุกข์กับ พล.ต.ท.สุรชัย  ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 พร้อม พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง รอง ผบช.ภ.4  พ.ต.อ.ภาคภูมิ  พิศมัย ผกก.สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น พร้อมพนักงานสอบสวนทีมเฉพาะกิจ บช.ภ.4 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ การกู้ยืมเงิน โดยสัญญาที่ไม่เป็นธรรม บช.ภ.4 เพราะผู้เสียหายทั้งหมดที่มาครั้งนี้ได้กู้ยืมเงินนายทุนเงินกู้คนหนึ่งเพื่อไปทำงานต่างประเทศ 1- 2.5 แสนบาท  โดยนำโฉนดที่ดิน ไปจำนองไว้ เมื่อใช้หนี้กู้ยืมมาหมดแล้ว ขอโฉนดที่ดินคืนมากลับไม่ได้คืน

 

 

นางคำเพียร กล่าวว่า พวกตนมาครั้งนี้ พร้อมเอกสารการกู้ยืมเงินที่ถูกนายทุนยึดโฉนดที่ดินคืน ที่ บช.ภ.4 เพื่อร้องขอความเป็นธรรม เพราะเมื่อ 4 - 5 ปี ที่ผ่านมา พวกเราได้กู้ยืมเงินนายทุนคนดังกล่าว 1 - 2.5 แสนบาท เพื่อไปทำงานต่างประเทศบางคน 1 ปี บางคน 2- 3 ปี ได้ส่งเงินใช้หนี้เงินกู้ให้นายทุนคนดังกล่าวหมดแล้ว กลับถูกยึดโฉนดที่ดินที่ค้ำประกันไว้ และนายทุนคนนั้นกลับมาฟ้องร้องผู้เสียหายว่ายืมเงินกู้นายทุนคนนั้นเพื่อมาทำการเกษตร พร้อมฟ้องคดี และยึดทรัพย์ขายทอดตลาด

 

 

แต่ที่จริงแล้วก่อนมีการกู้หนี้กับนายทุนคนดังกล่าว เมื่อประมาณ ปี 2543 - 2545 นายทุนคนนั้นได้เปิดบริษัทโฆษณาชวนเชื่อผู้เสียหายให้ไปทำงานต่างประเทศ โดยเอาโฉนดที่ดินไว้กับนายทุนคนนั้น พร้อมกับเซ็นชื่อใส่ในกระดาษเปล่า เมื่อไปทำงานเมืองนอกแล้วให้โอนเงินใช้หนี้ตามนามบัตรที่เขาให้มา และในปี 2546 ก็ปิดบริษัท แต่นายทุนคนนั้นได้ดำเนินการฟ้องร้องศาลว่าผู้เสียหายที่มาครั้งนี้ยืมเงินทำการเกษตร ไม่ยอมใช้หนี้เงินกู้ จึงต้องมีการยึดทรัพย์สินและยึดโฉนดที่ดิน

 

ด้าน นายวีระพงศ์  พิมพ์แพน กล่าวว่า เมื่อต้นปี 2543 ได้กู้เงินกับนายทุนเงินกู้ชื่อ นางวิไลพร ขอสงวนนามสกุล อายุประมาณ 44 ปี ชาว อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เพื่อไปทำงานที่ประเทศไต้หวันกับบริษัททำยางรถยนต์ 3 - 4 ปี ด้วยเงินกู้ยืม 1.9 แสนกว่าบาท โดยเซ็นต์เอกสารในกระดาษเปล่า พร้อมกับเอาโฉนดที่ดินบ้านอยู่อาศัยประมาณ 2- 3 งาน จำนองไว้กับนางวิไลพร แล้วนางวิไลพรจะดำเนินการประสานงานติดต่อกับประเทศไต้หวัน พร้อมค่าเครื่องบินโดยสาร ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆจะเป็นของตนเอง ทำงานอยู่ในประเทศไต้หวันส่งเงินให้กับนางวิไลพรเพื่อใช้หนี้เงินกู้ให้เขาทุกเดือนๆละ 2-30,000 บาท โดยเขาเอาเอทีเอ็มที่บอกรหัสให้เขาทราบไปกดเอาทุกเดือน บอกว่าเป็นการใช้หนี้เงินกู้พร้อมเสียดอกเบี้ย ซึ่งไม่ทราบว่าคิดดอกเบี้ยมากน้อยขนาดไหน เมื่อกลับมาถึงบ้านในประเทศไทย เพื่อจะขอโฉนดที่ดินคืนก็อ้างว่าโฉนดเยอะยังหาไม่เจอ ทวงทุกครั้งก็บอกว่ายังหาไม่เจอ อยากได้คืนให้ไปฟ้องร้องศาลก็ได้

 

 

ในส่วน พล.ต.ท.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ในเรื่องผู้เสียหายมากกว่า 50 คน มาร้องทุกข์ ว่า กู้ยืมเงินไปต่างประเทศ ใช้หนี้หมดแล้วกลับมาประเทศไทยก็ต้องถูกยึดโฉนดที่ดินอยู่อาศัย ในเรื่องดังกล่าวทั้งสองฝ่ายได้มีการฟ้องร้องทางศาลไปแล้ว ส่วนศูนย์ฯจะรับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายที่มากกว่า 50 คนขึ้นไป พร้อมกับตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อสอบสวนในแต่ละรายพิจารณาหาทางช่วยเหลือจะนำโฉนดมาคืนให้ผู้เสียหายที่มาร้องทุกข์ครั้งนี้ได้อย่างไร เพราะบางคดีเป็นแพ่ง บางคดีเป็นอาญา.