ตร.น้ำพองพบพยานปากสำคัญทำร้ายแม่หม้ายจนตายเตรียมขอหมายจับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจพบพยานปากสำคัญ คดีทำร้ายร่างกายแม่หม้ายแล้วลงมือข่มขืน เสียชีวิตระหว่างนำส่งโรงพยาบาล เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขอหมายจับข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
จากกรณี นางจงจิต มิ่งขวัญตา อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่8 ม.8 บ้านนาเรียง ต.หนองกุง อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น ถูกทำร้ายร่างกายหายใจรวยรินอยู่บนที่นอนสภาพเปลือยกายภายในบ้านพักตัวเอง และเสียชีวิตขณะนำส่ง รพ.น้ำพอง เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา และในเวลาต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ.สภ.น้ำพองส่งศพผู้ตายให้แพทย์นิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ ชันสูตรศพผู้ตาย และมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ซึ่งตำรวจสันนิษฐานสาเหตุการตรวจมาจากถูกคนสนิท ทำร้ายร่างกายจนสาหัสกระทั่งเสียชีวิต โดยขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน อายุน้อยกว่า และอายุมากกว่า ซึ่งทั้งสองคนเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ประกบตัวไว้แล้ว
ความคืบหน้าล่าสุด พ.ต.อ.สุวัฒน์ สมจิตต์ ผกก.สภ.น้ำพอง เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีพยานที่เห็นผู้ต้องสงสัยชัดเจน และเชื่อได้ว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้เป็นคนลงมือทำร้ายผู้ตาย เนื่องจากพยานยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้ มาหาผู้ตายที่บ้านก่อนที่จะเกิดเหตุร้ายเพียง 3 วันแล้วก็กลับไป ไม่ทันข้ามวันผู้ต้องสงสัยรายนี้ก็ย้อนกลับมาที่บ้านผู้ตายอีกครั้ง แต่ผู้ตายไม่เปิดประตูให้เข้าบ้าน พอตกกลางคืนก็มีเสียงทีวีเปิดลั่นบ้าน พร้อมๆกับเสียงผู้ตายแทรกขึ้นมาว่า “ ไม่ไหวแล้ว” แต่พยานก็ไม่กล้าจะเข้าไปยุ่งเพราะถือเป็นเรื่องส่วนตัว กระทั่งมีการตายเกิดขึ้นพยานรายนี้จึงมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมกับให้การที่เป็นประโยชน์อย่างมากเกี่ยวกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจเรามีพยานปากสำคัญที่ยืนยันตัวผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวแล้ว จึงอยู่ระหว่างการรวบรวม พยาน หลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับผู้ต้องสงสัยรายนี้ ในข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
และในส่วนกรณีที่มีทรัพย์สินของผู้ตายหายไปนั้น ในวันเกิดเหตุมีเพียงญาติพี่น้องและเพื่อนบ้าน อยู่ในที่เกิดเหตุ จึงยังไม่มีใครทราบรายละเอียดเกี่ยวกับทรัพย์สินของผู้ตาย แต่ขณะนี้ลูกๆบอกว่าทรัพย์สินแม่หายไปเป็นทองรูปพรรณรวม 6 บาท เงินสด 6,000บาท โทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง เบื้องต้นก็น่าจะเชื่อได้ว่า ผู้ที่ลงมือทำร้ายผู้ตาย เป็นคนเอาทรัพย์สินทั้งหมดไป แต่ต้องรอการจับกุมนำตัวมาสอบสวนก่อนว่ามีการลักทรัพย์สินผู้ตายไปด้วยหรือไม่ ถ้ามีการก่อเหตุก็จะได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติม และดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
