กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เขต 4 ขอนแก่น ได้มาตรวจสอบความคืบหน้าทางคดีกรณี น.ส.เอ (นามสมมุติ) นักศึกษาคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มมส.) เข้าร้องเรียนต่อเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าขณะฝึกงานที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ถูกสั่งให้ปลอมเอกสารข้อมูลสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอดส์กลุ่มส่งเสริมอาชีพ เป็นมูลค่าเงินรวมกว่า 6,900,000 บาท โดย น.ส.เอ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ เข้าให้ปากคำกับ พร้อมยื่นเรื่องขอคุ้มครองความปลอดภัยภายในสำนักงานป.ป.ท.โดย ป.ป.ท.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและลงพื้นที่เก็บข้อมูลในภาพรวมแล้วพบว่ามีมูลตามที่ร้องเรียนทั้งหมด จากนี้ไป ป.ป.ท.จะรวบรวมหลักฐานเข้าสู่กระบวนการไต่สวน ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่ห้องอาหารอัมพรแหนมเนือง หน้าวัดหนองแวงพระอารามหลวง ถ.กลางเมือง ต.ในเมือง  อ.เมือง จ.ขอนแก่น ได้มี นายตุลย์  ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่น ภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการและสมาชิกในองค์กร ได้จัดพิธีมอบเกียรติบัตรเพื่อแสดงว่า  น.ส.ปณิดา ยศปัญญา อายุ 23 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขา พัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และ น.ส.ณัฎกานต์ หมื่นพล อดีตเจ้าหน้าที่รัฐศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น เพราะทั้งสองคนเป็นบุคคลที่เหมาะสมอย่างยิ่งจะได้รับมอบเกียรติ เชิดชูเกียรติ คุณความดี ที่ได้กระทำประโยชน์กับสาธารณะเพื่อส่วนรวม และเป็นปัญญาชนคนรุ่นใหม่ที่มีแนวความคิด อุดมการณ์ ซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละ กล้าหาญ ทางจริยธรรมและธรรมาภิบาล เป็นแบบอย่างของสังคมเป็นที่ประจักษ์ ซึ่งเป็นบุคคลอันควรยกย่องให้ปรากฏต่อสาธารณชนอย่างนัยสำคัญ

โดย นส.ปนิดา ได้มาพร้อมกับ ร.ต.สมชาย อายุ 57 ปี  และ นางน้อมจิตร ยศปัญญา อายุ 53 ปี บิดามารดา อยู่บ้านเลขที่ 320/ 131 หมู่ 7 ต.แดงใหญ่  อ.เมือง จ.ขอนแก่น ส่วน นส. ณัฏกานต์ หมื่นพล ผู้ร่วมในการร้องเรียน จนท.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่นให้กรอกเอกสารและปลอมรายมือชื่อของประชาชนที่รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอดส์เป็นเงินมูลค่ารวม 6.9 ล้านบาท มีภารกิจที่สำคัญจึงไม่ได้มารับมอบเกียรติบัตร ทำให้ นส.ปณิดาเป็นผู้รับแทน

 

นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ กล่าวว่า วันนี้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น พร้อมคณะกรรมการ ได้มอบเกียรติบัตรเพื่อแสดงว่า นส.ปณิดา และ นส.ณัฏกานต์ เป็นบุคคลที่เหมาะสมอย่างยิ่งจะได้รับมอบเกียรติบัตร เชิดชูเกียรติ คุณความดีที่ได้กระทำประโยชน์จิตสาธารณะเพื่อส่วนรวม เพราะองค์กรฯได้ติดตามข่าวนี้มาโดยตลอด โดยเฉพาะข่าวที่เกิดขึ้นที่มี นส.ปณิดา และ นส.ณัฏกานต์ ฝึกงานและทำงานอยู่ในศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่น ระหว่างเดือน ส.ค.-พ.ย. 2560 ได้ถูกเจ้าหน้าที่ให้กรอกเอกสารและลายมือชื่อของประชาชนที่รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอดส์กลุ่มส่งเสริมอาชีพเป็นเงินมูลค่ารวม 6.9 ล้านบาท และได้เป็นข่าวกับสื่อมวลชนทุกสำนักในขณะนี้

 

 

"ดังนั้นองค์กรฯจึงต้องสนับสนุนคนดี และพลเมืองดีใน จ.ขอนแก่น โดยเฉพาะ นส.ปณิดา และ น.ส.ณัฏกานต์ กล้าหาญมากที่ได้ออกมาบอกกับหน่วยงานของรัฐที่จะมากล่าวโทษข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่รัฐใน จ.ขอนแก่นในด้านการทุจริต นอกจากนี้องค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นภาคพลเมือง จ.ขอนแก่น ขอเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และ กอ.รมน.จว.ขอนแก่น ออกมาคุ้มครองพยาน คือ นส.ปณิดา นส.ณัฏกานต์ พร้อมพวกอีกด้วย เพื่อให้เขาปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน" นายตุลย์ กล่าว

 

นายตุลย์ กล่าวอีกว่า จากการติดตามข่าวดังกล่าวที่ผ่านมาทราบว่า นส.ปณิดาได้แจ้งความไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว ซึ่งเป็นหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสอบสวนดำเนินการ พร้อมกับหน่วยงาน ป.ป.ท.ที่ได้รับการร้องเรียนจาก นส.ปณิดาในเรื่องดำเนินการที่จะต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงเพื่อเอาผิดกับราชการที่ทุจริตอีกเช่นกัน ซึ่งองค์กรฯของตนขอฝากไปถึงนายกรัฐมนตรี และ หน.คสช.ที่ได้วางนโยบายในเรื่องคอรัปชั่นเอาไว้ กลับได้มีเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ปฏิบัติตามนโยบายของ คสช.อีกด้วย

 

นส.ปณิดา กล่าวว่า หลังจากที่เกิดเรื่องที่ได้ร้องเรียน จนท.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่นให้กรอกเอกสารและปลอมรายมือชื่อของประชาชนที่รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอดส์เป็นเงินมูลค่ารวม 6.9 ล้านบาท ได้เกิดความกังวลอย่างมากในเรื่องการคุกคาม ซึ่งได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บ้านเป็ด จ.ขอนแก่น เพื่อขอความคุ้มครองจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ขอความคุ้มครองจาก กอ.รมน.จว.ขอนแก่นคุ้มครองความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับครอบครัวและพ่อแม่ของตนด้วย เพราะเมื่อสองสามวันที่ผ่านมาได้มีชายคนหนึ่งขับรถยนต์เก๋งสีดำเข้ามาในหมู่บ้านถามกับชาวบ้านและญาติของตนถามหาตน โดยบอกว่าจะช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นมา เมื่อมีการขอดูบัตรประจำตัวเขาก็ไม่ให้ดูแล้วรีบขับรถออกจากหมู่บ้านไป นอกจากนี้ยังมีคนที่ไม่ทราบว่าเป็นใครโทรมาข่มขู่ตนและลุงของตนครั้งหนึ่งอีกด้วย

 

ในส่วน นางน้อมจิตร ยศปัญญา มารดาของ นส.ปณิดา บอกว่า ในเรื่องที่ลูกสาวของตนร้องเรียนหน่วยงานของรัฐหลายหน่วยงานที่ จนท.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ขอนแก่นให้กรอกเอกสารและปลอมรายมือชื่อของประชาชนที่รับเงินสงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยและผู้ติดเชื้อเอดส์เป็นเงินมูลค่ารวม 6.9 ล้านบาท แม่และพ่อดีใจ พร้อมกับภูมิใจในตัว นส.ปณิดาที่เป็นลูกสาวคนที่สอง ที่กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าทำ ซื่อสัตย์ สุจริต แม้ว่าเรื่องลูกสาวกระทำลงไปกระทบต่อสังคมและเป็นเรื่องใหญ่อย่างมาก การกลัวย่อมมีในตัวของทุกคนในครอบครัว นส.ปณิดาก็ต้องทำ ซึ่งตนก็ขอให้เจ้าหน้าที่ปกป้องคุ้มครองลูกสาวและครอบครัวของตนด้วย.