รองผู้ว่าฯขอนแก่นยันเป็นธรรม ทั้งสองฝ่าย กรณีนศ.แฉปลอมเอกสาร
รองผู้ว่าฯขอนแก่น ยัน กรณี น.ศ.แฉ ขบวนการปลอมแปลงเอกสาร พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ให้สัมภาษณ์กรณีนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สาขาพัฒนาชุมชน มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ร้องเรียนต่อเลขาธิการ คสช. และ ปปช.ขณะเข้าฝึกงานตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน ที่ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดขอนแก่น พร้อมเพื่อนรวม 4 คน ก่อนถูก ผู้อำนวยการฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สั่งให้ร่วมปลอมแปลงเอกสารของทางราชการ และลงลายมือชื่อ แทนประชาชนในใบเสร็จรับเงิน รวมกว่า 2,000 ราย คิดเป็นยอดเงินรวมกว่า 6,900,000 บาท ว่า ประเด็นดังกล่าวแม้จะยังคงไม่ได้รับเอกสารชี้แจงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแต่ทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้มีการตรวจสอบข้อมูลและรายละเอียดต่างๆ
ขณะนี้ทราบว่า เรื่องดังกล่าวนี้ได้ร้องเรียนตรงไปยังเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. รวมไปถึง ปปช .และ ปปท. เข้าสู่ขั้นตอนการสอบสวนและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจังหวัดยังไม่เห็นเอกสารเกี่ยวกับการร้องเรียนต่างๆ
อย่างไรก็ตามเมื่อมีการร้องเรียนตามลำดับขั้นตอนแล้ว ทางจังหวัดเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากมีหนังสือสั่งการมายังจังหวัดขอนแก่น ก็พร้อมที่จะทำการสอบสวนตามระเบียบของทางราชการ และยืนยันในการให้ความเป็นธรรมทั้งในส่วนของผู้ร้อง และ ผู้ที่ถูกกล่าวหา อย่างไรก็ตามหาก คสช.-ปปท และ ปปช. มีคำสั่งหรือประสานการทำงานร่วมกับทางจังหวัด ทุกฝ่ายก็จะพร้อมให้ความร่วมมือและดำเนินการในเรื่องนี้ให้เป็นไปตามขั้นตอนและโปร่งใส
โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 9 ก.พ. พล.อ.อนันพร กาญจนรัตน์ รมว.พม. ให้สัมภาษณ์ว่า นโยบายตนได้กล่าวย้ำชัดเจนหากมีการร้องเรียนหรือการทุจริต ถ้าพบมีมูลหรือมีเหตุผลก็ให้ย้ายผู้เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ก่อน เพื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยเร็ว ห้ามปล่อยไว้
ซึ่งเรื่องดังกล่าวอธิบดี พส.ได้รายงานแล้วถึงการร้องเรียนครั้งแรกยังไม่ชัดเจน แต่หลังตรวจสอบพบมีมูลก็ได้ย้ายผู้ที่เกี่ยวข้องออกมาแล้วและอยู่ในขั้นตอนตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้งว่า มีความเสียหายมากน้อยขนาดไหน ซึ่งคงใช้แวลาไม่นาน แต่ขณะนี้ตัวผู้เกี่ยวข้องได้ย้ายออกจากพื้นที่แล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น ซึ่งถูกกล่าวหา ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ถึงการกระทำดังกล่าวดำเนินการโดยสุจริต ทำเพื่อประชาชนนั้น พล.อ.อนันตพร กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ระบุถึงผู้เกี่ยวข้องว่าผิด 100 เปอร์เซ็นต์ เพียงแต่พบว่ามีมูลถึงการกระทำไม่ถูกต้อง จึงต้องมีการสอบสวน หากสุจริตซึ่งอาจจะผิดเรื่องของการดำเนินการ หรืออาจจะถูกเรื่องการปฏิบัติก็ต้องว่ากันไป
แต่นโยบายของตนได้เน้นย้ำถึงเรื่องเงินสงเคราะห์ต้องโปร่งใส เพราะเป็นเงินช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้ หากดำเนินการไม่โปร่งใสก็ไม่ถูกต้อง เพราะประชาชนที่ยากไร้มีจำนวนมาก หากทำด้วยความไม่ถูกต้องของกติกา แต่ได้ช่วยเหลือคนได้อย่างแท้จริงก็ต้องไปดูและพิสูจน์ข้อเท็จจริง ซึ่งก็ให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เรื่องนี้ตนจะติดตามอย่างใกล้ชิด โดยให้อธิบดีรายงานทุกสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม อย่าเพิ่งไปกล่าวโทษข้าราชการ ต้องดูว่ามีเจตนาอย่างไร ต้องดูข้อเท็จจริง ส่วนกำหนดเดดไลน์ตามมาตรฐานของตนกำหนดจะต้องรู้ผลได้ข้อยุติไม่เกิน 30 วัน ยกเว้นมีข้อมูล ข้อเท็จจริงที่จะต้องติดตามเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำตลอดเรื่องความโปร่งใสในทุกหน่วยงานของ พม. ย้ำเพื่อให้เกิดความระมัดระวัง ไม่ใช่มองในแง่ร้าย การเห็นคนเดือดร้อนก็ต้องช่วยทันทีและต้องมาทำเอกสารย้อนหลังก็ลำบาก ซึ่งก็ต้องเห็นใจ แต่ต้องดูเจตนาที่ดีเป็นอย่างไร และเรารับได้แค่ไหน
อย่างไรก็ตาม ขอให้นักศึกษาฝึกงานที่ไปร้องเรียนไม่ต้องกลัว เราให้ความเป็นธรรม และไม่ให้นักศึกษาต้องเสียหาย เพราะเชื่อว่าเด็กก็พูดจากใจจริง คงไม่แสแสร้งไปแกล้งใคร.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รองผู้ว่าฯขอนแก่นยันเป็นธรรม ทั้งสองฝ่าย กรณีนศ.แฉปลอมเอกสาร
- นศ.สาวลงบันทึกประจำวันป้องกันตัว หลังแฉ ผอ.ศูนย์ช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง - นศ.ม.ขอนแก่นอีก8คนที่ถูกนำชื่อไปเบิกเงินร่วมแจ้งความ
- ผอ.ศูนย์พึ่งพิงฯขอนแก่น ชี้นักศึกษาเข้าใจผิด หลังนศ.ฝึกงานแฉปมทุจริต6.9ล้าน
- สั่งย้าย ผอ.ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งขอนแก่น พร้อมจนท.3คน หลังพบมีมูล ปมสั่ง นศ.ปลอมเอกสาร
- นศ.ฝึกงานแฉ! ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งฯขอนแก่น สั่งปลอมเอกสาร เบิกเงิน6.9ล้าน